ช่วงนี้ฝนกำลังตก ยังความชุ่มฉ่ำมายังผืนโลก ถ้าไปเที่ยวช่วงนี้รับรองฟินกับสายฝนและทะเลหมอกแน่ ผมเองอยากออกไปเที่ยวเต็มทนแล้ว แต่ยังติดต้องเขียนรีวิวพาเที่ยวเมืองจีนครับ
สืบเนื่องมาจาก ผมได้รับเชิญไปร่วมทริปเที่ยวเมืองจีนกับ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เป็นเวลา 6 วัน 5คืน โดยมีเจ้าภาพร่วมคือการท่องเที่ยวมณฑลเจียงซี ซึ่งได้พาไปเที่ยวเมืองหนานชาง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซี รวมถึงเมืองใกล้เคียงอีกหลายเมือง
เมืองหนานชาง เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซี ตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางค่อนไปทางเหนือของมณฑลอยู่ทางตอนเหนือ ของมณฑลเจียงซี
ก่อนขึ้นเครื่องไทยแอร์เอเชีย เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการไปเที่ยวเมืองจีนกันหน่อย
1. ที่จีน เราจะใช้ Google Facebook Gmail และ Line ไม่ได้นะครับ นอกจากเราจะเปิดโรมมิ่งไปจากเมืองไทย ซึ่งผมว่า น่าจะเปิดไปครับ เปิดแบบไม่ใช้ก็ไม่ต้องเสียเงินก็ได้ ใช้เท่าที่จำเป็น แต่ถ้าเป็นแบบเหมาจ่ายก็ใช้เต็มที่ได้เลย อาจจะแพงหน่อย ลองเช็คกับทางค่ายโทรศัพท์ดูนะครับ หรืออาจจะเช่า Pocket Wifi ไปก็ได้
2.เวลาที่จีน เร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง
3 พวกปลั๊กไฟ สามารถใช้ได้เหมือนๆกับเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
4 ใช้แอ๊ปแปลภาษา Google Translate รวมถึง Google Map ด้วย จะช่วยได้มาก เพราะคนจีนส่วนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และบางสถานที่ก็ไม่มีป้ายภาษาอังกฤษ ใช้แอ๊ปแปล จะช่วยได้ครับ แต่เราต้องเปิดโรมมิ่งมานะครับหรือใช้ Pocket Wifi จึงจะใช้ Google ได้ครับ
5 จีน ใช้เงินหยวน อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5.5 บาท ต่อ 1 หยวน
6 พาสปอร์ต ควรนำติดตัวไปด้วย ถ่ายเอกสารไว้กันเหนียวด้วยก็ดี หรือถ่ายรูปส่งเข้าอีเมล์ตัวเองไว้ เผื่อต้องใช้ ถ้าทำพาสปอร์ตหาย
7 ถ้าจะซื้อของที่จีน ควรต่อรองราคาเยอะๆ เข้าไว้
8 เพาเวอร์แบงค์ ที่นำไปควรมีตัวเลขบอกขนาดความจุ ถ้าไม่มีจะถูกยึดที่สนามบินตอนกลับ
การเดินทางของเราครั้งนี้ พิเศษกว่าปกติครับ เพราะไทยแอร์เอเชีย เปิดบินตรงจากสนามบินอู่ตะเภา ถึงหนานชาง มีบริการสัปดาห์ละ 4 วัน
อู่ตะเภา-หนานชาง 10.00 น.-14.25 น. หนานชาง -อู่ตะเภา 15.10-17.35 น.
ใครจะไปเที่ยวลองเช็คราคาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดกับ traveloka ดูนะครับ จองกับเว็บนี้ราคาถูกกว่า โปรโมชั่นก็ออกใหม่ทุกสัปดาห์ มีฟังก์ชั่น smart combo สำหรับตั๋วเครื่องบิน โดยจับคู่เที่ยวบินจะได้ราคาถูกลง ไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้ โดยชำระเงินผ่านธนาคาร อีกอย่างราคาที่เห็นคือราคาขายจริง ไม่มีการมาบวกเพิ่ม
การเดินทางไปหนานชาง เราใช้เวลา 3 ชั่วโมง บนเครื่องมีอาหารให้สั่งทานได้ครับ บางเมนูต้องสั่งล่วงหน้า บางเมนูก็สั่งบนเครื่องได้ครับ
ถึงหนานชางแล้ว อากาศเย็น สบายๆ อย่าลืมตั้งเวลาใหม่ ที่จีนเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง
จุดแรกสำหรับทริปนี้คือ อุทยานแห่งชาติเขาหลูซาน ( Lu Mountain Nanchang, Jiangxi )
ออกจากสนามบิน มาขึ้นรถบัสที่ทัวร์จัดไว้ให้ ( มีรถบัสสาธารณะออกจากสนามบินถึงเขาหลูซาน ) ได้น้ำดื่ม 1 ขวด จุดหมายปลายทางของเราคือ อุทยานแห่งชาติเขาหลูซาน เมืองจิ่วเจียง ซึ่งระยะทางประมาณ 150 กม.
ระหว่างทาง ชมวิวไปเรื่อยๆ จะเห็นวิวภูเขาหลูซานไกลๆ สวยมากครับ อุทยานเขาหลูซาน มีพื้นที่ทั้งหมดราวๆ500 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 1474 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ได้รับสมญานามว่า อุทยานสวรรค์เมืองในหมอก
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาหลูซาน
มาถึงจุดนี้ครับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาหลูซาน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนรถ เราต้องขึ้นรถบัสของอุทยาน เพื่อขึ้นเขาหลูซาน
จุดนี้เป็นจุดที่เราจ่ายค่าเข้าอุทยานคนละ 180 หยวน แพงกว่าอุทยานบ้านเราเยอะ ( อยากรู้ว่าเป็นเงินบาทเท่าไหร่ เอา5.5คูณครับ ) การเดินทางขึ้นเขาหลูซาน มีหลายทาง ทางรถยนต์ขึ้นได้ 2 ทาง ถนนชันมาก โค้งนับไม่ถ้วนกันเลย นักท่องเที่ยวนิยมขับรถขึ้นเอง หรืออีกทางคือ นั่งกระเช้าขึ้นไปครับ
ก่อนขึ้นรถอุทยาน มาซื้อแผนที่ไว้ดูหน่อย ( 10 หยวน ) มีภาษาอังกฤษพอให้เดาๆได้นิดๆครับ ( แอ๊บแปลภาษาช่วยได้ อิอิ )
แผนผังท่องเที่ยวของอุทยานเขาหลูซาน
ช่วงที่ผมไป คือตอนปลายๆเดือนเมษายน 59 ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนพอดี ( หน้าฝนระหวางเดือน เมษายน- มิถุนายน ) ซึ่งจะมีฝน 80 % ของปริมาณฝนทั้งปี เขาหลูซาน เป็นเขาที่สูงชัน มีหมอกหนาเกือบตลอดปี เรียกว่าใครชอบอาบหมอก ไม่ผิดหวังแน่ๆ แต่บางทีหมอกก็หนาฟุ้งขาวไปหมด ทำให้มองไม่เห็นวิวอะไรเลย ของแบบนี้ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของธรรมชาตินะครับ
บนเขาหลูซาน มีเมืองตากอากาศชื่อว่า คูลลิ่ง (Kuling ) เป็นเมืองที่สวยมาก เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคจีนเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
ชื่อเมืองน่าจะมาจากภาษาอังกฤษ ( cool ) ที่แปลว่าเย็นครับ เพราะเมืองนี้อากาศเย็นสบายตลอดปี ต่างจากอุทยานในบ้านเรานะครับ บ้านเราไม่มีอุทยานที่เป็นเมือง แต่ที่นี่มีเมืองด้วย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผมเห็นแล้วยังทึ่งเลยครับ มีโรงแรม ร้านรวง ตึกรามบ้านช่องทันสมัยมากๆ
ด้วยความงดงามและหลากหลายทางวัฒนธรรม เขาหลูซานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในวันที่ 6 ธันวาคม 1996 จากองค์การยูเนสโก ระยะทางประมาณ 20 กิโลถึงเขาหลูซาน ผ่านโค้งมานับไม่ถ้วน แต่ละจุดที่ผ่านมา ทั้งสวย ทั้งเสียวครับ ใช้เวลานั่งรถไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง เมือง คูลลิ่ง ซึ่งคืนแรกเราจะพักกันที่นี่ครับ
โรงแรม Fairyland Hotel เมืองคูลลิ่ง เขาหลูซาน
โรงแรมที่พักคืนแรก คือFairyland Hotel เป็นโรงแรม 4 ดาว ตั้งอยูในเมืองคูลลิ่ง บนเขาหลูซาน
มีมินิมาร์ทในโรงแรมด้วยครับ
ทางเดินเข้าห้อง
ก่อนอื่น เดินทางมาเหนื่อยๆ ต้องกินก่อนครับ
เป็นอาหารค่ำในโรงแรม ซึ่งผมว่ารสชาติยังไม่โดนเท่าไหร่ หนักไปทางเค็มครับ แต่ก็พอกินได้
อิ่มแล้วสำรวจห้องพักกันหน่อยครับ ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง ถ่ายรูปก่อนดีกว่า
ในห้องมี wifi ฟรีให้ใช้ แต่ใช้เล่นเฟส หรือกูเกิ้ลไม่ได้นะครับ
โรงแรมนี้ราคาค่อนข้างแพงนะครับ จริงๆในเมืองคูลลิ่งมีโรงแรมราคาไม่แพงด้วยครับ คงต้องเช็คดูกันก่อน
มีโต๊ะนั่งทำงานด้วย แถมมีเร้าเตอร์ไวไฟ ในห้องให้ด้วย ความแรงไม่ต้องพูดถึง
ห้องน้ำปูด้วยหินอ่อนครับ
เช้าวันใหม่ ตื่นมาถ่ายรูปก่อน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของผมเมื่ออกทริปครับ
ใกล้ๆกับโรงแรม มีลำธารเล็กๆ และต้นไม้สวยๆ ผมตื่นแต่เช้ามืด จริงๆวันนี้ทางทัวร์มีโปรแกรมพาเราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว ซึ่งต้องตื่นกันตั่งแต่ ตี4 ตี5 กันเลย แต่ด้วยสภาพอากาศ และมีฝนตก ฟ้าไม่เปิดแน่นอน ไกด์บอกว่า ไปก็คงไม่เห็นอะไร จึงเปลี่ยนแปลงโดยให้ล้อหมุนในตอนสายๆ
ผมจึงเดินเล่น ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ อากาศเย็นมาก ผมว่ากำลังสบายเลย เดินถ่ายรูปได้เรื่อยๆ เช้านี้แค่ได้มาเดินตรงนี้ก็สุขแล้วครับ ผมแบกขาตั้งมาด้วย เพราะจะได้ถ่ายลำธารแบบนุ่มๆ
นอกจากถ่ายน้ำแล้ว ก็ถ่ายต้นไม้บ้าง ช่วงนี้สีเขียวสวย สบายตาจริงๆครับ
อันนี้คือต้นอู๋ถง ใบสวยดี
ตรงนี้คือป้ายรถเมล์ ซึ่งมีรถเมล์ผ่าน 2 สาย ซึ่งจะขับวนไปเรื่อยๆ เราอยู่ตรงบรเวณสีเหลือง
ถ่ายไปเดินไป ห่างโรงแรมออกไปเรื่อยๆ ต้นไม้ส่วนมากใบจะมีสีเขียวสด สวยงาม เห็นบ้านเรือนหลากหลายดีไซน์ครับ
ฝนก็เริ่มลงเม็ด แล้วก็หนาขึ้นเรื่อยๆ
จนที่สุดที่เริ่มตกจริงจัง ไม่ได้การแล้วสิครับ รีบเผ่นกลับโรงแรมดีกว่า
ทะเลสาปหลูฉิง (Ruqin Lake )
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเที่ยวครับ นั่งรถของอุทยานเหมือนเดิม เนื่องจากเมื่อคืนฝนตก และเช้าก็ยังตกอีก ทำให้เรามีความหวัง คือหวังว่าจะได้เห็นหมอกสวยๆแน่ นั่งรถไม่นานก็ถึงจุดเที่ยวจุดแรกของวันนี้คือ ทะเลสาปหลูฉิง
หลูฉิง เป็นทะเลสาปที่คนสร้างขึ้นในปี 1961 มองทางอากาศจะคล้ายกับไวโอลิน บางคนก็เรียกทะเลสาปนี้ว่า ทะเลสาปไวโอลิน ใต้น้ำมีวัดโบราณอยู่ ชื่อวัดต้าหลิง
บริเวณทะเลสาปหลูฉิง จะมีจุดให้เดินเที่ยวหลายจุดใกล้ๆกัน เช่น เส้นทางดอกไม้ สะพานสวรรค์หุบเขาจิ่งซิ่ว
เช้านี้มีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร แรกๆ ก็ยังไม่มีหมอก แต่พอผ่านซักพัก หมอกเริ่มมา ผมเริ่มตื่นเต้น รีบถ่ายรูป
ที่นี่ มี 4 ฤดู ที่มีสภาพอากาศและความงามแตกต่างกันไป ช่วงนี้เป็นหน้าฝน ต้นไม้จะมีสีเขียวสวย แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยไปอีกแบบ ส่วนหน้าหนาวที่นี่จะมีหิมะตก
หันหลังให้ทะเลสาป ผมเจอภูเขาสูง หมอกกำลังคลืบคลาน รอช้าไม่ได้แล้ว รีบเดินมาถ่ายครับ
ตรงนี้คือหุบเขาจิ่งซิ่ว ซึ่งจะมีทางเดินชมวิวรอบเขา เรียกว่า สะพานสวรรค์ มีจุดชมวิวที่หน้าผาที่ทั้งสวยและสวยให้ยืนถ่ายรูป
ขอขอบคุณ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย และการท่องเที่ยวมณฑลเจียงซี ที่พาเที่ยวครับ
ฟ้ากว้าง ทางไกล หัวใจไปถึง
จากใจ ชายคาตะวัน