เที่ยวสมุทรสงคราม แม่กลอง
ช่วงนี้เที่ยวไทย จะเท่มาก แต่จะเท่ที่สุดก็ต้องเที่ยวใกล้กรุง ทั้งนี้ก็เพราะว่า เที่ยวง่าย ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ว่าแล้วลุงชายคา จะพาไปเที่ยวกันเลย ไปที่จังหวัดในภาคกลางนี่แหละ เป็นจังหวัดดาวรุ่ง ขับรถเที่ยวได้สะดวก จะเช้าไปเย็นกลับ หรือค้างสักคืนก็แสนจะสุขใจ
จังหวัดแรกที่ลุงชายคาจะพาเที่ยวก็คือ “เมืองสายน้ำ สามเวลา สมุทรสงคราม” หรือเมือง “แม่กลอง” ของเรานี่เอง
“สมุทรสงคราม” หรือเมือง “แม่กลอง” เป็นจังหวัดภาคกลาง มีพื้นที่น้อยที่สุด และมีประชากรน้อยที่สุดด้วย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 65 กม. มีเพียง 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.อัมพวา และอ.บางคนที
ทริปนี้ ลุงชายคา เที่ยวเท่ๆแบบชิวๆ โดยขับรถส่วนตัว 2 วัน 1 คืน จริงๆ แม่กลอง อยู่ใกล้กรุงมาก ไปเช้า กลับเย็นก็ได้ แต่ทริปนี้ลุงชายขอชิวๆเท่ๆสักหน่อย กับ “5จุดเช็คอิน” “5 วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” และ “5 กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ”
2 วัน 1 คืน ขับรถเที่ยว “สมุทรสงคราม”
วันที่1
1.”ดอนหอยหลอด” อ.เมือง จุดเช็คอินที่ 1
ขับรถออกจากบ้านย่านนนทบุรีแต่เช้า จุดหมายแรกอยู่ที่ ดอยหอยหลอด เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ลักษณะ เป็นสันดอน ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำแม่กลอง กว้างประมาณ 3 กม. และ ยาว 5 กม. ที่นี่มีหอยหลอดจำนวนมาก ลุงชายมาถึงค่อนข้างเช้า อากาศกำลังดีเลย คนยังไม่เยอะ ที่จอดรถสะดวกสบาย มีเสื่อให้เช่านั่งเล่นด้วย เพียง20บาทต่อผืนไม่จำกัดเวลา จะนั่งทั้งวันก็ได้ ลุงเจ้าของเสื่อใจดี
ก่อนอื่น ลุงขอไปไหว้ “เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร” ก่อน ที่นี่เค้ามีป้ายรณรงค์การป้องกันโควิด19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลลกอฮอลล์
หลังจากนั้นก็เดินชมวิว ชมวิถีถิ่น มีนกเดินหาอาหารกิน มีเรือล่องไปมา มีทั้งเรือชาวบ้าน และเรือนักท่องเที่ยว
“ตลาดดอนหอยหลอด” เป็น1 ใน5วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เดินชมวิวทะเลสักพัก ก็มาเดินตลาดดอนหอยหลอดบ้าง มีของขายมากมาย โดยเฉพาะหอยหลอดและอาหารทะเลต่างๆ ราคาไม่แพง จะซื้อกลับบ้าน หรือนั่งทานกันที่ร้าน ก็มีให้เลือกตามอัทธยาศัย
สำหรับกิจกรรม “ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ” ก็คือการสวมหน้ากากนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
2.”วัดบางกุ้ง” อ.บางคนที จุดเช็คอินที่ 2
ที่นี่เป็น Unseen ของแม่กลองเลย สำหรับวัดบางกุ้ง หรือโบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายบางกุ้ง ค่ายทหารสมัยที่ไทยทำสงครามกับพม่า หลังจากที่พระเจ้าตากสินมหาราช ได้สถาปนากรุงธนบุรี เป็นเมืองหลวง
จุดเด่นของที่นี่คือพระอุโบสถเก่าแก่ ที่ถูกปกคลุมด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง ต้นไกร สวย แปลกตา นับว่าเป็นอันซีนแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม มีหลวงพ่อนิลมณี เป็นพระประธานในโบสถ์ งดงามมาก ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย
ส่วนเรื่องการเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ ที่นี่เข้มมากครับ ด้านนอกโบสถ์มีเจลแอลกอฮอล์ให้ล้างมือ และที่ทางเข้าโบสถ์ จะมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนให้สวมหน้ากากอนามัย ใครไม่สวมก็ไม่ให้เข้าครับ
3.”ตลาดร่มหุบ” อ.เมือง จุดเช็คอินที่3
ตลาดร่มหุบ อยู่ใกล้กับ “สถานีรถไฟแม่กลอง” ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Unseen ของแม่กลอง ด้วยเพราะตลาดร่มหุบ เป็นตลาดที่แปลก เพราะพ่อค้า แม่ค้าจะวางของขายกันบนรางรถไฟกันเลย พอรถไฟมาก็หุบร่ม เก็บของออกจากรัศมีของรถไฟ พอรถไฟผ่านไปก็กางร่มออก ขนของออกมาขายเหมือนเดิม เป็นวิถีที่แปลก เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงชาวไทยด้วย เพราะในวันหยุดที่ผ่านมา คนไทยยังมาเที่ยวตลาดร่มหุบกันอย่างคึกคัก
ใครจะมาถ่ายรูป ซื้อของ หรือมาดูรถไฟวิ่งเข้า-ออกสถานีแม่กลอง ผ่านตลาดร่มหุบ ต้องมาให้ตรงเวลานะครับ คือ เข้าสถานีเวลา 08.30 น. 13.40 น.15.30 น. และ ออกจากสถานี เวลา 06.20 น . 09.00 น. 11.30 น. 15.30 น
สำหรับ “วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ก็มีอาหารขายมากมาย โดยเฉพาะปลาทู และอาหารทะเลต่างๆ รวมถึงร้านอาหารเจ้าเก่า มีทั้งร้านบะหมี่ ร้านข้าวมันไก่ เย็นตาโฟ ฯลฯ
และของกินที่ลุงชาย ชอบอีกอย่างคือ “ลูกจากเชื่อม” คุณป้าคนขายบอกว่าขายดีมาก ลูกจากเชื่อม ปกติจะไม่ค่อยมีขายมากนัก ลุงชายเองก็ไม่ค่อยเห็นเช่นกัน
ส่วนกิจกรรม “เที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ” ที่ตลาดร่มหุบก็คือการทิ้งขยะลงถัง สวมหน้ากากอนามัย และใช้เจลล้างมือครับ
4.”ตลาดน้ำอัมพวา” จุดเช็คอินที่ 4
ตั้งอยู่ ริมคลองใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม อ.อัมพวา เป็นตลาดดัง มีชื่อเสียงมายาวนาน มีร้านรวงริมน้ำ และเรือพายขายของมากมาย เปิดบริการทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด เป็นตลาดที่เน้นเวลากลางคืน คือเปิด15.00 น.-21.00 น. เรียกว่ายิ่งค่ำยิ่งคึกคัก ทำให้ได้ฉายาว่า “ตลาดน้ำยามเย็น”
ภายในตลาด ลุงชายเดินจนเมื่อย ของกิน ของใช้มากมายเต็มไปหมด เลือกไม่ถูกกันเลย มีเรือล่องแม่น้ำพาไปชมหิ่งห้อยหลายเจ้า บางเจ้าบอกไม่เห็นหิ่งห้อย ยินดีคืนเงินจร้า อิอิ ค่าล่องเรือถูกมากครับ คนละ60 บาทเท่านั้นเอง
วันนี้ลุงชาย มาถึงตลาดน้ำอัมพวา ตอนเกือบๆ5โมงเย็น เดินชมตลาดแบบเพลินๆ อากาศอาจจะร้อนไปบ้าง แต่เห็นของกิน และบรรยากาศริมน้ำ และเรือเรือที่แล่นผ่านไปมาก็ชิวดีเหมือนกันครับ
สำหรับ “วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ของที่ตลาดน้ำอัมพวา อยากบอกว่ามีของขายมากมาย ทั้งอาหาร ผลไม้ และขนม มีทั้งแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่แพ็กเกจสวยงาม
ส่วนเรื่อง “การเที่ยวแบบปลอดภัยและรับผิดชอบ” ลุงชายก็สวมหน้ากากเดินชมตลาด แล้วก็ล้างมือด้วยเจลลบ่อยๆ ซึ่งก็มีทั้งเจลตามจุดต่างๆในตลาด และที่พกมาเองด้วยครับ
เมื่อมาตลาดน้ำอัมพวาทั้งที ก็ได้สัมผัสแสงเย็นสิ ถึงจะเรียกว่า มาถึงตลาดน้ำอัมพวา เพราะอัมพวาเป็นตลาดน้ำยามเย็น แม้วันนี้แสงจะไม่สวยมากก็ตาม ได้เห็นผู้คนเดินชมตลาด บ้างก็นั่งทานอาหาร บ้างก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บางคนนั่งเรือไปชมหิ่งห้อย เห็นแล้วก็มีความสุขครับ
หลังจากถ่ายรูปแสงเย็นเรียบร้อย ก็ได้เวลากินแล้วสิ มื้อค่ำนี้ลุงชายกินหอยทอดทะเล กับส้มตำครับ มีน้ำมะพร้าวอ่อนอีก1แก้วใหญ่ๆ อยากบอกว่า หอยทอดทะเลเด็ดมาก คนขายอยู่ในเรือ ราคาจานละ40 บาท มีหอย กุ้ง หมึกครบเลย คุ้มมากครับ แถมยังได้ความรู้สึกและบรรยากาศของการมาตลาดน้ำอีกด้วย หลังจากอิ่มแล้ว ก็ซื้อขนมของฝากติดมือ กลับที่พักแบบเหนื่อยนิดหน่อย แต่สนุกดีจ้า
วันที่ 2
5. “บ้านริมคลองโฮมสเตย์” จุดเช็คอินที่ 5
43/1 หมู่ 6 ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม 75000
ทริปนี้ลุงชายคา พักที่ “บ้านริมคลองโฮมสเตย์” หรือ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์” ที่นี่ก่อตั้งเมื่อ พศ 2547 มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ ได้สัมผัสวิถีชีวิตริม 2ฝั่งคลอง รวมถึงได้เรียนรู้วิถีเกษตรแบบพอเพียง โดยเฉพาะเรื่องของมะพร้าว มีฐานเรียนรู้หลายฐาน เช่น การจักสาน การทำน้ำตาลมะพร้าว ฯลฯ มีจักรยานให้ปั่นเที่ยวด้วย
ส่วนบ้านพักก็มีหลายแบบให้เลือก ทั้งหลังใหญ่นอนหลายคน และหลังเล็กริมน้ำนอน 2 คน แบบแนบชิดธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากแหล่งชุมชนทั้งของบ้านริมคลองเอง และของชุมชนอื่น ให้ได้เลือกซื้ออีกด้วย
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย รวมถึงได้มาตรฐาน SHA ของ ททท. เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว ทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เมื่อมาเที่ยวที่บ้านริมคลองโฮมสเตย์
สำหรับเรื่องของ “วิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ของที่บ้านริมคลอง คือ จะมีขนมไทย และน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งเราจะได้เรียนรู้วิธีทำขนม และทำน้ำตาลมะพร้าว เริ่มตั้งแต่การตัดวงมะพร้าว รองน้ำตาลด้วยกระบอก แล้วนำมากรอง และเคี่ยวบนเตาไฟจนได้ที่ แล้วนำมาเทใส่ภาชนะ
ส่วนเรื่อง “การเที่ยวแบบปลอดภัยและรับผิดชอบ” ลุงชายใช้ถุงผ้าใส่ของที่ซื้อกลับบ้าน และ ขี่จักรยานเที่ยวชมบริเวณโดยรอบ เป็นการลดมลภาวะให้โลก และสวมหน้ากาก และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
หลังจากทำกิจกรรม และชมพื้นที่ต่างๆในบริเวณบ้านริมคลองโฮมสเตย์แล้ว ช่วงบ่ายๆก็ขับรถกลับบ้าน แบบชิวๆสบายๆ
เมื่อได้มา “สมุทรสงคราม” หรือ “แม่กลอง” แล้ว ทำให้รู้ว่า แม่กลอง มาเที่ยวได้ง่ายๆ แบบสนุกๆ มาได้บ่อยเพราะห่างกรุงเทพฯแค่60กว่ากิโลเท่านั้นเอง แบบนี้ ลุงชายคา ต้องมาอีกแน่นอน เพราะมีหลายจุดที่ยังไม่ได้ไปเช็คอิน
อย่าลืมออกมาเที่ยวเมืองไทยกันนะครับ ช่วงนี้เที่ยวได้ฟินๆ และก็อย่าลืมเรื่องของการเที่ยวแบบปลอดภัย ใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อยๆกันด้วยนะครับ
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา
จากใจ ชายคาตะวัน