ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวต้อนรับลมหนาวที่ เชียงราย 5วัน 4 คืน ทั้งเที่ยวในเมืองแล้วก็ลุยเขาขึ้นดอย โดยใช้บริการของสายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile Airways )ซึ่งออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 7.20 น. แล้วก็ใช้รถเช่าของ Thai Rent A Car ( ไทยเร้นท์อะคาร์ )ขับตระเวนเที่ยว
ติดตามผลงานการเดินทางท่องเที่ยวของผมเพิ่มเติมได้ที่ เพจชายคาตะวัน
เริ่มกันเลยครับ สำหรับทริปเชียงรายกับไทยสมายล์
ผมถึงสนามบินสุวรรณภูมิเช้าตรู่ เห็นแสงทไวไลท์เช้าๆสวยๆก็อดใจไม่ได้ที่จะลั่นชัตเตอร์ แม้ไม่ได้ใช้ขาตั้งแต่ก็อยากถ่ายครับ
สำหรับชั้นสมายล์คลาสของไทยสมายล์ จะได้น้ำหนักโหลดกระเป๋าฟรี 20 กก. ส่วนชั้นสมายพลัส ที่ผมนั่งได้น้ำหนักกระเป๋า 30 กก. ตรงนี้ดีต่อใจครับ เพราะถ้าเป็นทริปต่างประเทศที่ต้องใช้กระเป๋าใบใหญ่ 30กก.ก็เพียงพอ ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อน้ำหนักเพิ่ม
นอกจากนี้ลูกค้า Smile Plus สามารถ Boarding Passใช้เป็นส่วนลดในร้านค้าที่ร่วมโครงการ THAI Smile Privilege ได้อีกด้วย
ลูกค้าไทยสมายล์ได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่นสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ก่อนใคร ฟรี! สำรองล่วงหน้าถึง 120 วันก่อนการเดินทาง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ดูรายละเอียดการสำรองที่นั่งได้จาก www.thaismileair.com/faq
สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส สามารถรับไมล์สะสม รวมถึงการแลกตั๋วรางวัล เมื่อโดยสารกับสายการบินไทยสมายล์ได้ ดูตารางไมล์สะสมสายการบินไทยสมายล์และวิธีแลกตั๋วได้ที่ www.thaismileair.com/th/faq/thaismile
ก่อนขึ้นเครื่องผมมาใช้บริการเลาจ์ครับ ( ชั้นสมายล์คลาสไม่สามารถใช้เลาจน์ได้นะครับ ) ซึ่งเป็นเลาจ์เดียวกับการบินไทย อาหารว่างมีให้ทานเยอะครับ รวมถึงข้าวต้มมัดด้วย แพล่บๆๆ
หลังจากจัดการกับของว่างแล้ว ก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง
ที่นั่งชั้นสมายล์พลัส ที่วางขากว้าง ที่นั่งตรงกลางถูกว่างไว้ ทำให้นั่งสบายไม่เบียดกัน
ไทยสมายล์มีของว่างและเครื่องดื่มให้กับทุกที่นั่ง ทั้งเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินต่างประเทศ
สาวสวยบนเครื่องบริการด้วยรอยยิ้ม
อยู่บนเครื่อง ถ่ายรูปไปเรื่อย ไม่ได้งีบเลย ชั่วโมงเศษ ก็ถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
ทริปนี้ผมใช้บริการรถเช่าจาก Thai Rent A Car ( ไทยเร้นท์อะคาร์ )รับรถได้ที่สนามบินครับ สะดวกมาก ได้รถวีออส เก๋งเล็ก 1500 cc ซึ่งสามารถขับขึ้นดอยได้แบบสบายๆ ตรวจดูความเรียบร้อย พร้อมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งตอนคืนรถ เราก็ต้องเติมน้ำมันเต็มถังเช่นกัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ www.thairentacar.com
ส่วนโรงแรมที่พักของผมคือโรงแรม เดอะ เลเจ้นด์ เชียงราย บูติค ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Legend Chiang Rai Boutique River Resort & Spa) โรงแรมหรูบรรยากาศไทยๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก วิวสวยมากๆครับ
ผมขับรถเช่าของ Thai Rent A Car ตระเวนเที่ยวในเมืองหลายที่ อาทิ สิงห์ปาร์ค วัดร่องขุ่น วัดห้วยปลากั้ง พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของอ.ถวัล ดัชนี รวมถึงได้ขับขึ้นภูชี้ฟ้าอีกด้วย ทริปเที่ยวเชียงราย 5วัน4คืนในครั้งนี้ ผมไปช่วงต้นฤดูหนาวปี59ครับ บรรยากาศกำลังดี ลมพัดหนาวมากๆตอนอยู่บนภูชี้ฟ้า ชิวอย่าบอกใครเลยครับ สำหรับรีวิวนี้ผมไม่ได้เรียงลำดับนะครับ เอาเป็นว่าจะพาไปเที่ยวในเมืองเชียงรายก่อนครับ
เริ่มจากวันแรก เช็คอิน โรงแรมเดอะ เลเจ้นด์ เชียงราย บูติค ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา
น้องๆพนักงานสาวๆ ต้อนรับผมด้วยรอยยิ้มสยามครับ
เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อนครับ
หลังจากนั้นก็ไปไหว้พ่อขุนเม็งรายครับ
พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์มังราย เป็นผู้สถาปนาเมืองเชียงรายเป็นราชธานี
แล้วก็เลยไปถ่ายรูปหอนาฬิกา
หอนาฬิกานี้ตั้งอยู่ใจกลางเทศบาลนครเชียงราย บริเวณถนนบรรพปราการ ในตัวเมืองเชียงราย ศิลปะการก่อสร้างคล้ายกับวัดร่องขุ่น ใช้เวลาสร้าง 5 ปี และเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 12 สิงหา 2551 เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาองค์พระราชินี
หอนาฬิกาแห่งนี้ เป็นงานพุทธศิลป์ ของจ.เชียงราย เป็นศิลปะที่แฝงด้วยกลิ่นอายพระพุทธศาสนา สวยงามมากเริ่มสร้างปี 2548 ออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
หลังจากถ่ายหอนาฬิกาช่วงกลางวันแล้ว ก็มาถ่ายช่วงทไวไลท์บ้าง เพราะผมมองแล้วว่า ต้องสวยมากแน่เลยในตอนค่ำ ก็เลยมารอถ่ายอีกในตอนเย็น
ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ถ่ายรูปในช่วงนี้ครับ กลัวถ่ายไม่ทัน เพราะแสงสวยๆหมดเร็วมาก
หลังทไวไลท์ ผมก็รอเวลา 1 ทุ่ม เพื่อชมการแสดงแสงสีประกอบเพลงของหอฬิกาอีก การแสดงใช้ เวลา 2 เพลง ซึ่งเพลงที่ 2 คือเพลง เชียงรายรำลึก ช่วงนี้บอกตามตรงเลยครับ ผมเคลิ้มเลย เพลงเชียงรายรำลึกเป็นเพลงที่ผมชอบมาก ฟังแล้วเห็นภาพเชียงรายยามราตรีที่สุดแสนโรแมนติก บางช่วงบรรยายถึงริมน้ำกก “หากมีเดือนฉาย นิยายสวาท บาดหัวใจไม่เลือน”
การแสดงแสงสีของหอนาฬิกา มี 3 รอบ คือ 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่มครับ ในแต่ละรอบจะมีนักท่องเที่ยวมาจับจองที่ยืนชมแสงสี มีชาวต่างชาติเยอะพอสมควร
วัดห้วยปลากั้ง
วัดห้วยปลากั้ง ตั้งอยู่บนเขา ในต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย วิวสวยมาก
นี่คือ พบโชคธรรมเจดีย์ สวยเด่น สูง 9 ชั้น เป็นศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดง
ทางขึ้นมีมังกร 2 ตัวทอดยาว ล้อมรอบด้วยเจดีย์ เล็กๆ 12 ราศี ชาวบ้านเชื่อว่าหากได้มาวัดห้วยปลากั้ง จะหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ภายในเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ
ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ซึ่งแกะสลักจากไม้จันหอม
เดิมวัดห้วยปลากั้ง เป็นวัดร้างมาตั้งแต่โบราณ ไม่มีใครทราบประวัติที่แน่นอน ต่อมาพระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส ได้ทำการบูรณะและก่อสร้างเจดีย์ โบสถ์ และเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ขึ้น
เจ้าแม่กวนอิม องค์ใหญ่มาก สร้างยังไม่เสร็จ 100 % แต่คาดว่าไม่นาน คงจะเสร็จ
วัดร่องขุ่น
มาที่วัดร่องขุ่นบ้างครับ พลาดไม่ได้แน่นอน มาเชียงรายแล้วไม่มาวัดร่องขุ่นคงเหมือนไม่ได้มา วัดร่องขุ่นใครๆก็รู้จักครับ โด่งดังระดับโลก อลังการงานสร้างจริงๆ ฝีมือของศิลปินล้านนาฝีมือดี อาจารย์เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์
วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่ ตำบล สันทราย อำเภอเมืองเชียงราย เสริชทางไปจาก Google Map ง่ายที่สุด แต่ก็ไปไม่ยากครับ อยู่ใกล้ๆกับถนนพหลโยธิน ( หมายเลข 1 ) มีทางแยกเข้าถนนหมายเลข 1208 (แยกเข้าน้ำตกขุนกรณ์ ) เพียง100เมตรก็ถึง อยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงรายประมาณ 13 กม.
วัดร่องขุ่นเริ่มสร้างเมื่อปี2540 โดยการรื้อวัดร่องขุ่นเดิมออก และอ.เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์ ได้สร้างวัดร่องขุ่นในรูปบแบบใหม่ขึ้น สร้างมาเรื่อยๆ และขยายพื้นที่วัดออกไปเรื่อยๆ ปัจจุบันน่าจะมีพื้นที่เกิน 10 ไร่แล้ว
ที่นี่เมื่อเข้าไปชมภายในบริเวณวัดแล้ว ต้องเดินหน้าตลอดนะครับ ห้ามหันหลังกลับทางเดิม เพราะจะได้เป็นการระบายนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละวันมีเยอะมากครับ ด้านในโบสถ์ มีพระประธานที่งดงามมากๆๆๆ บอกเลยว่างดงามจริงๆ แต่ทางวัดห้ามถ่ายภาพครับ ก็เลยไม่มีรูปมาฝาก
ส่วนนี่คือห้องน้ำทองคำ
วัดร่องขุ่น เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.
ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค
มาที่ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค บ้าง ผมออกจากวัดร่องขุ่นเลี้ยวซ้ายมาตามถนนหมายเลข 1208 ขับเรื่อยๆ เลี้ยวขวาที่สามแยก เข้าถนนหมายเลข1211 ขับต่อไม่นานครับ ประมาณ2กม.ก็ถึง สิงห์ปาร์คอยู่ซ้ายมือ
สังเกตุสิงห์สีทองตัวนี้ครับ ตัวใหญ่มาก เป็นสัญญลักษณ์ของสิงห์ปาร์ค ถ้าเราขับตรงไปเรื่อยๆไม่แวะสิงห์ปาร์ค ก็จะเข้าเมืองเชียงรายได้ครับ ซึ่งระยะทางราวๆ10กว่ากิโล
การมาเที่ยว สิงห์ปาร์ค เราจะขับรถเลี้ยวเข้าไปชมเลยก็ได้ หรือจะไปใช้บริการรถรางของทางไร่ก็ได้ครับ ( ค่าบริการรถราง50 บาทต่อคน ) วันนึงมีหลายรอบครับ
สำหรับผมเลือกขับรถเข้าไป (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) จริงๆก็มีดอกไม้สวยๆ ต้นไม้สวยๆให้ถ่ายรูป มีไร่ชาขนาดใหญ่ มีร้านอาหารวิวสวยบริการ แต่สำหรับดอกไม้ก็อยู่ที่ฤดูด้วยนะครับว่าช่วงไหนมีดอกอะไรสวย ก่อนไปควรเช็คดูก่อนก็จะดี
ตรงนี้คือจุดชมวิวไร่ชา อยู่ใกล้กับร้านอาหารภูภิรมย์ มายืนรับลมชมวิวเพลินๆ
ตรงนี้เรียกว่าบ้านแดง มีจักรยานให้เช่าปั่นชมไร่
และมีกิจกรรม Adventure ให้เล่นด้วย นั่นคือ Zipline เป็นการโรยตัวด้วยลวดสลิง ผ่านไร่ชา ชมวิวได้180 องศากันเลยทีเดียว
วันนี้ผมอยู่ที่สิงปาร์คจนค่ำ ได้ภาพแสงเย็นมาให้ชมด้วยครับ
สิงห์ปาร์คเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00-17.00 น.
กลับเข้าโรงแรมครับ
โรงแรม เดอะ เลเจ้นด์ เชียงราย บูติค ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Legend Chiang Rai Boutique River Resort & Spa)
นอนพักเอาแรง
ตื่นตี5 เพื่อมาถ่ายแสงทไวไลท์เช้า
ถ่ายล็อบบี้แสงทไวไลท์เช้าครับ ข้อดีของการถ่ายยามเช้าคือ คนไม่ค่อยมี แต่ก็ต้องบอกทางโรงแรมให้ช่วยเปิดไฟให้ เพราะปกติตอนเช้าเค้าจะไม่ค่อยเปิดไฟอยู่แล้ว
วันนี้อยู่ในโรงแรม ถ่ายรูปชิวๆ ว่ายน้ำในสระบ้าง
จนบ่ายๆค่อยออกไปลุย เป้าหมายอยู่ที่บ้านดำ ของอ.ถวัลย์ ดัชนี
บ้านดำ หรือพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี
บ้านดำ อยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ มีผลงานด้านศิลปะมากมาย ทั้งด้านภาพเขียนและด้านปฏิมากรรม
ที่นี่มีบ้านอยู่หลายหลัง บ้านจะทาสีดำ ซึ่งเป็นสีที่อ.ถวัลย์ชอบ บ้านเหล่านี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่แสดงผลงานและของสะสมของอาจารย์ถวัลย์
ตัวบ้านถูกประดับด้วยไม้แกะสลักลวดลายงดงาม รวมถึงพวกเขาสัตว์ต่าง เช่น เขาควาย เขากวาง รูปทรงแปลกตา เดินชมก็เพลินเหมือนกันครับ รูัได้ถึงความใส่ใจของศิลปินที่บรรจงสร้างสรรค์ศิลปะไว้ประดับโลก
มีบ้านรูปทรงแปลกตาหลายหลัง เดินชมก็เพลินเหมือนกันครับ รูัได้ถึงความใส่ใจของศิลปินที่บรรจงสร้างสรรค์ศิลปะไว้ประดับโลก
บ้านดำ เปิดให้ชมฟรี ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) 8.00-17.00 น.
เช้าอีกวัน ตื่นมาถ่ายโรงแรมอีก
แล้วก็ทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารซึ่งอยู่ริมน้ำกก
บรรยากาศยามเช้าที่ห้องอาหาริมน้ำกก
กาแฟร้อนๆซักถ้วย คงช่วยคลายหนาวเย็นได้บ้าง
จากนั้นรีบบึ่งขึ้นดอยครับ เป้าหมายแรกคือ ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า
จากเชียงรายใช้ถนนหมายเลข 1020 ไปยังอำเภอเทิง ขับเรื่อยๆพอถึงอ.เทิง ออกนอกเมืองมาไม่ไกลเจอ3 แยก ให้เลี้ยวซ้ายตามถนน 1155 ขึ้นภูชี้ฟ้า ( ตรงแยกนี้ถ้าเราตรงไป จะไปอ.เชียงคำ ซึ่งก็ย้อนกลับไปภูชี้ฟ้าได้ แต่จะไกลและชันกว่า )
เจอหมอกตามทางก็จอดถ่ายรูป อยากจอดอยากแวะตรงไหนก็ได้นี่คือข้อดีของการใช้รถเช่าครับ
ถึงภูชี้ฟ้าบ่ายแก่ๆ ชมบรรยากาศชิวๆ ที่จุดกางเต็นท์ Good Wiew @ภูชี้ฟ้า
ถ่ายแสงเย็นที่จุดกางเต็นท์ Good Wiew @ภูชี้ฟ้า
คืนนี้นอนบ้านครับ หลังนี้ราคาไม่แพงครับ ที่ลานกางเต็นท์ กู๊ดวิว แอท ภูชี้ฟ้า มีบ้านเพียง 2 หลัง แต่พื้นที่ลานกางเต็นท์เยอะมากครับ ช่วงต้นหนาว ฝนยังปรอยๆ ลานกางเต็นท์ยังไม่มีเต็นท์กาง ถ้ามาช่วงนี้นอนบ้านดีกว่าครับ หลังนี้1000 บาท นอนได้ 2 คน
หน้าลานกางเต็นท์ยามพระอาทิตย์ตก
ไฮไลท์ของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้าก็คือ ขึ้นไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภุชี้ฟ้า แต่วันนี้ท่าจะหมดหวัง เพราะฟ้าไม่เปิดเลย ตื่นเช้าก็คงไม่เห็นอะไร ก็เลยขับรถจากลานกางเต็นท์ขึ้นไปจุดจอดรถบริเวณทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้า ในช่วงสายๆครับ มีน้องๆหนูมาคอยร้องเพลงให้ฟัง
บรรยากาศช่วงปลายฝนต้นหนาว มันฟินมากครับ หมอกค่อนข้างฟุ้งกระจาย
วันนี้ไม่มีทะเลหมอก แต่ความหนาวเย็นนี่ ฟินเลยนะครับ อยากจะอยู่บนนี้ทั้งวันเลย
ผมอยู่บนนั้นนานพอสมควร รอจนฟ้าเริ่มจะใส พอจะเห็นอะไรอะไรด้านล่างบ้าง
ที่เห็นด้านล่างนั่นคือ สปป.ลาวนะครับ มีแม่น้ำโขง มหานทีสุดยิ่งใหญ่ของเอเชีย ไหลเลื้อยคดเคี้ยวอยู่เป็นองค์ประกอบ มองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตา
บรรยากาศสุดยอดครับ อยากมีใครซักคนมาอยู่ใกล้ๆ มาเดินอาบไอหมอกรับลมหนาวด้วยกัน
จริงๆจากภูชี้ฟ้าผมก็ไปดอยผาตั้งต่อครับ นอนผาตั้งอีก 1 คืน แต่เอาไว้โอกาสต่อไปจะมาโพสต์ให้ชมนะครับ
ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับ เข้าเลาจน์นั่งชิวก่อน มีของว่างขนมต่างๆให้กินครับ
ทริปนี้ขอบคุณสายการบินไทยสมายล์ (Thai Smile Airways ) รถเช่า Thai Rent A Car โรงแรม เดอะ เลเจ้นด์ เชียงราย บูติค ริเวอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รวมถึงขอบคุณทุกกำลังใจที่เข้ามาชม มากดบวก กดถูกใจ และร่วมพูดคุย
ถึงสุวรรณภูมิ หกโมงกว่า แสงกำลังสวยเลยครับ
รับกระเป๋า แล้วกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา
จากใจ..ชายคาตะวัน