รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ เที่ยวจันทบุรี บุฟเฟ่ซีฟู๊ด
ก็อากาศมันร้อน ก็เลยต้องไปคลายร้อนที่ทะเลจันทบุรีกันหน่อย เพราะเมืองจันท์ไม่ไกลมากและทะลสวยด้วย มีสถานที่เที่ยวเยอะ อีกอย่างเพราะผมเองได้ข่าวมาว่าที่จันทบุรี มีเมืองสวยๆเกิดขึ้นที่อ.แหลมสิงห์ เป็นเมืองที่มีความงดงามมากๆ สถาปัตยกรรมที่แปลกตา ตั้งเด่นอยู่กลางน้ำ ใครเห็นก็ต้องว้าววววครับ
เมืองสวยกลางน้ำที่ผมพูดถึงก็คือ “รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์” ครับ ความสวยของเมือง ที่ใครๆก็ไม่อยากเรียกว่า “โฮมสเตย์” เพราะเป็นเมืองที่มีความงดงาม มีการออกแบบที่วิจิตรบรรจง ตัวบ้านทำด้วยไม้ เด่นสะดุดตาที่หลังคาหลายชั้น สวยเก๋แบบที่รีสอร์ทหรูบางแห่งยังต้องหลบกันเลย
รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ ตั้งอยู่ที่ หมู่10 ต.หนองชิ่ม อ. แหลมสิงห์ จันทบุรี 22130 โทร 064 -628 2891 และ082 949 6515
พิกัดแผนที่ https://bit.ly/2DeZhW7
แฟนเพจ https://bit.ly/2XkNVrb
รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ สร้างขึ้นเพราะเจ้าของอยากจะตอบแทนแผ่นดินบ้านเกิด นั่นก็คือคุณ “นิศารัตน์ รัตนสร้อย” ซึ่งเป็นคนหนองซิ่ม อ.แหลมสิงห์ และรูปแบบของเมืองก็ได้แรงบันดาลใจจากเมือง “เวียงชัยบุรี เมืองแห่งความอร่อย” ที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
เมื่อเกิดเมือง รัตนะบุรี (รัตนะ มาจากนามสกุล รัตนสร้อยของคุณนิศารัตน์ ) ก็จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีได้หลายจุด และที่สำคัญคือ การกระจายรายได้ต่างๆไปสู่ท้องถิ่นให้พี่น้องที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้มีโอกาสเข้ามาสร้างรายได้ร่วมกับ รัตนะบุรี เช่น การขายสินค้าพื้นเมือง สินค้าในท้องถิ่น ให้กับนักท่องเที่ยว
รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์แบบครบวงจร บนพื้นที่ 7 ไร่กว่า ที่ว่าครบวงจรก็คือ ที่นี่เค้าจะรวมราคาของการเข้าพัก ค่าอาหาร และค่ากิจกรรมไว้เสร็จสรรพ เรียกว่าจ่ายทีเดียว ได้ทุกอย่างครบ ไม่ต้องกังวลว่างบจะบานครับ
ราคาที่พัก
เพียงคนละ 1700 บาท จะได้ห้องพัก 1 คืน +อาหาร 2 มื้อ +ล่องแพเปียกเล่นน้ำ ชมเหยี่ยวแดง เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบฟรี (นอนเตียงเดียวกับผู้ปกครอง ) เด็กอายุ 5-11 ขวบ 600 บาทต่อคน สำหรับห้องพักมีตั้งแต่พัก 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน และจนถึงหลังใหญ่สุด 11 คน (แต่ลูกค้าสามารถจองเป็นหลังได้ ) และทุกคนจะได้คูปองแลกซื้อกาแฟสดได้ 1 แก้ว จะแลกตอนไหนก็ได้
และเมื่อมาเที่ยวจันทบุรี ก็ควรแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ อย่างเช่น
น้ำตกพริ้ว พิกัด https : //bit.ly/2IitQhS
อยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ครอบคลุม อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ที่นี่นอกจากมาเล่นน้ำแล้ว ยังมีปลาพลวงให้ชม และมีจุดกางเต็นท์ไว้บริการอีกด้วย
ชุมชนเมืองเก่าจันทบูร พิกัด https://bit.ly/2GimabQ
ไปเดินทอดน่อง ชมวิถีชีวิตริมน้ำจันทบูร
โบสถ์คาทอลิก อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี
พิกัด https://bit.ly/2UTBBRj
อาสนวิหารที่งดงามริมน้ำ เป็นสัญญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองจันท์
จุดชมวิวเนินนางพญา พิกัด https://bit.ly/2X93GBx
เป็นจุดชมวิวดังที่มาจันทน์แล้วต้องแวะมาแชะภาพ ตั้งอยู่บนเนินชมวิวทะเลทะเล ริมถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ใกล้หาดคุ้งวิมานและอ่าวคุ้งกระเบน มีที่จอดรถสะดวกสบาย มีที่พัก มีร้านค้า ร้านอาหารและห้องน้ำบริการ (เสียเงิน ) ด้วย
จุดชมวิวพระยืน
ตั้งอยู่ที่ตำบล สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี เป็นจุดชมวิวอีกจุด ที่ควรแวะ นั่งพักผ่อนถ่ายรูป ชมวิวทะเลของหาดคุ้งวิมาน อยู่ใกล้จุดชมวิวเนินนางพญา
ตึกแดง พิกัด https: //bit.ly/2Vd9CMk
อยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ เกือบสุดทางที่ท่าเรือปากน้ำแหลมสิงห์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาตร์ สร้างโดยชาวฝรั่งเศส ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เคยเป็นที่พักของทหารฝรั่งเศส ในช่วงที่ฝรั่งเศสยึดครองเมืองจันทบุรี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของตึกแดง
ชายหาดแหลมสิงห์
ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำจันทบุรี หรือปากน้ำแหลมสิงห์ ไม่ไกลจากสะพานแหลมสิงห์ เป็นชายหาดยาวประมาณ 1.5 กม. มีร้านค้า รีสอร์ทมากมายให้เลือกพักผ่อน สามารถลงเล่นน้ำได้ และมีบริการอาบน้ำจืด
สะพานตากสิน หรือสะพานแหลมสิงห์
เป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่ต้องแวะ ตรงกลางสะพานจะมีจุดจอดรถสำหรับชมวิว ขับขึ้นไปจอดได้เลย ถ้ามาตอนพระอาทิตย์ตกจะสวยมาก
โบสถ์สีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู
ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พิกัดแผนที่ https://1th.me/TAtj
พระอุโบสถ ที่ผนังทำจากเซรามิก สีน้ำเงิน หรือโบสถ์สีน้ำเงิน เป็นโบสถ์ทนน้ำเค็มกันสนิมแห่งเดียวในโลก โดยทางวัดปากน้ำแขมหนู ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล ได้ทำการรื้อโบสถ์หลังเก่าที่ทรุดโทรมเพราะโดนไอทะเลกัดกร่อน แล้วสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมา และมีการเปลี่ยนมาใช้เซรามิกมาเคลือบชั้นปูน เพราะเซรามิกมีผิวมันวาว สีติดทนทาน และยังทนต่อการกัดกร่อนจากไอทะเลอีกด้วย
ส่วนที่เลือกใช้เป็นสีน้ำเงิน เพราะได้แนวคิดมาจากภาชนะลายครามโบราณที่ทำจากเซรามิก จะมีแค่สีน้ำเงินบนพื้นขาวเพียง2สีเท่านั้น เมื่อใช้เซรามิกสีน้ำเงินบนพื้นขาว ทำให้ตัวโบสถ์สวยงามโดดเด่น เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอ.ท่าใหม่ จันทบุรี
เกาะเปริด จุดชมวิวซันชายน์และผาสุขนิรันดร์
จุดชมวิวแหลมสิงห์
เขาว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดใน อ.แหลมสิงห์ อยู่ห่างจากสะพานแหลมสิงห์ประมาณ 800 เมตร ขับจากสะพานแหลมสิงห์เลี้ยวซ้ายมาเรื่อยๆก็จะเจอจุดจอดรถ ใกล้กับศาลกรมหลวงชุมพร เราแวะสักการะเสด็จเตี่ยก่อน
แล้วค่อยเดินเท้าขึ้นจุดชมวิว ระยะทางประมาณ 400 เมตร แต่เป็นทางเดินขึ้นเขาชัน เหนื่อยเอาเรื่องเลยครับ ควรพกน้ำดื่มไปด้วย
จุดสูงสุดจะเจอกับประภาคาร ซึ่งวิวทะเลสวยมาก มองเห็นสะพานแหลมสิงห์ทอดตัวยาว
และใกล้กับประภาคาร เดินอีกราวๆ 30 เมตร จะพบกับจุดชมวิวที่มองเห็น สิงห์โตหิน หรือสิงห์หมอบอยู่ด้านล่าง กำลังพุ่งตัวออกไปสู่ทะเล
สิงห์โตหินตัวนี้คือที่มาของชื่อ อ.แหลมสิงห์
วันที่มาเที่ยว แนะนำให้ออกเช้าๆหรือมืดๆกันเลย จะได้แวะที่เที่ยวได้หลายที่ ขับรถโดยใช้กูเกิ้ลแม็ปนำทางได้เลย ก่อนเข้าโฮมสเตย์ก็หาอาหารเที่ยงกินก่อน
รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์
มาถึงโฮมสเตย์ประมาณบ่ายโมง จอดรถได้ที่หน้าโฮมสเตย์เลย หรือจะจอดฝั่งตรงข้ามถนนก็ได้ เป็นที่จอดรถของโฮมสเตย์เหมือนกัน ซึ่งที่จอดจะเยอะกว่า ระหว่างรอเช็คอินบ่าย2 ก็หามุมถ่ายรูป เพราะทางโฮมสเตย์จัดสวนดอกไม้สวยๆไว้สำหรับถ่ายรูป อยู่ตรงโซนด้านหน้าเลย ซึ่งโซนนี้ทางโฮมสเตย์อนุญาติให้คนทั่วไปหรือคนที่มาดื่มกาแฟได้เข้าชมและถ่ายภาพได้
เมื่อได้มาเยือนเมืองสวยแปลกตาแบบนี้แล้ว เราต้องถ่ายรูปครับ ถ่ายเยอะๆเลย เพราะเช็คอินเข้าห้องตอนบ่าย 2 จะไม่มีเวลาถ่าย เพราะจะได้เวลาล่องแพเปียกแล้ว
เราเช็คอินตรงนี้ครับ เดินเข้ามาหาตัวโฮมสเตย์ จะอยู่ขวามือ
ห้องพัก
เมื่อเช็คอินแล้ว เราจะได้กุญแจ และริชแบนติดข้อมือ ริชแบนติดข้อมือไว้ใช้สำหรับผ่านเข้าออกตัวโฮมสเตย์โซนสำหรับลูกค้าที่เข้าพักเท่านั้น ริชแบนโดนน้ำได้ไม่ฉีกขาด
เสร็จสรรพก็เดินเข้าห้องพัก ซึ่งโซนนี้จะเข้าได้เฉพาะลูกค้าของโฮมสเตย์เท่านั้น
ห้องพักของผม หมายเลข 30/3 เป็นห้องแบบนอน 3 คนครับ เป็นห้องเริ่มต้นเลย ห้องไม่กว้างนัก ในห้องมีแอร์ ทีวี มีน้ำดื่มให้ มีห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ไม่มีตู้เย็น ไม่มีตู้เสื้อผ้า ไม่มีผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ผู้เข้าพักต้องเตรียมมาเองครับ
ห้องน้ำตกแต่งสวย มีอ่างล้างหน้าและเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่มีสบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม เราต้องเอามาเอง
ล่องแพเปียก
เราล่องแพเปียกตอนบ่าย3ครับ มีแพ 2 ลำ ทุกคนต้องใส่ชูชีพ ถ้าใครอยากเล่นน้ำควรใส่กางเกงขาสั้นแบบสบายๆ แต่อย่าลืมนะครับว่านี่คือแพเปียก ใครพกกล้องไปต้องระวังนิดนึง เพราะถ้ามีเรือลำอื่นขับมาใกล้ๆ คลื่นอาจทำให้กล้องเปียกได้ ถ้าจะให้ดีควรมีเป้กันน้ำครับ เค้าจะพาล่องชมธรรมชาติ2ฟากฝั่งไปเรื่อยๆ พร้อมให้อาหารเหยี่ยวแดง ซึ่งวันนี้เหยี่ยวแดงมาไม่เยอะครับ
พอถึงจุดเลี้ยงหอยนางรม ทางแพจะอนุญาตให้เราลงเล่นน้ำได้ พร้อมกับมีเพลงสนุกๆเปิดให้ได้สนุกสนานกัน
เล่นน้ำสักพักใหญ่ ก็ได้เวลาล่องแพกลับ
อาหารค่ำ
กลับมาจากล่องแพบ่ายแก่ๆเย็นๆ ก็ได้เวลามื้อค่ำ (18.00-22.00 น.) เราทานกันที่ห้องอาหาร ซึ่งเป็นอาคารที่มีหลังคาสูงที่สุด มีหลังคาถึง 11 ชั้น
อาหารจัดเป็นเซ็ต 8-9 อย่าง เน้นซีฟู๊ด สดๆ ทุกเมนูเติมได้ไม่อั้น มี กุ้งเผา ปูนึ่ง ปลาสมุนไพร ต้มยำทะเล ทอดมันปลา หมูชะมวง ยำรวมมิตร พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ส่วนของหวานเป็นผลไม้รวม เค้าจัดไว้เป็นโต๊ะ กินได้เรื่อยๆครับ แถมหลัง 1ทุ่มยังมีดนตรีบรรเลงให้ฟังด้วย
ทไวไลท์ อิน รัตนะบุรี
อิ่มแล้วก็ได้เวลาถ่ายรูปแสงทไวไลท์เย็นครับ เมืองเค้าเปิดไฟตั้งแต่ฟ้ายังขาวอยู่เลย ทำให้ รัตนะบุรี สวยงามโดดเด่น น่าถ่ายรูปเป็นที่สุด
ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว และมืดลงเรื่อยๆ เมืองรัตนบุรียังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟ ยังคงงดงามและโรแมนติกอย่างยิ่ง แม้ฟ้าจะเริ่มเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีดำก็ตาม ซึ่งถ้าจะนับจำนวนหลอดไฟ คงนับไม่ไหวเป็นแน่แท้
หลังจากเก็บภาพจนเมื่อยแล้ว ก็เข้าห้อง อาบน้ำ นอนครับ
ปล. ภายในห้องมีเพียงแอร์ ทีวี น้ำดื่ม ห้องน้ำ และเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ผ้าเช็ดตัว เราต้องเตรียมมาเอง
ย้ำนะครับ ต้องเตรียมมาเองครับ
อรุณสวัสดิ์ วันฟ้าสวยที่..รัตนะบุรี
เช้าอีกวัน ใครขยันก็ตื่นมาดูแสงเช้ากันก่อน ประมาณตี 5 ครึ่ง แสงสวยๆของตะวันเริ่มทาบทาเมืองรัตนะบุรี ไฟประดับตามทางเดิน และบ้านแต่ละหลัง ยังคงเปิดอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้ถ่ายรูปสวยมาก อากาศก็เย็นสบาย คือที่นี่เค้าจะเปิดไฟให้เมืองสว่างไสวแบบไม่เสียดายค่าไฟกันเลย
พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า แสงไฟเมืองรัตนบุรีบางจุดดับลงแล้ว
อาหารเช้า
ถ่ายรูปแสงเช้าเสร็จ ก็ไปทานอาหารเช้าครับ ทานที่เดียวกับมื้อเย็นครับ เค้าจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ไว้ให้ มีหลายเมนู เช่นข้าวต้มกุ้ง ที่เด็ดคือผัดไทยเส้นจันท์กุ้งครับ แล้วก็มีข้าวผัด สลัดผักต่างๆ ใส้กรอก แฮม ไข่ดาว กาแฟ ไมไล โอวัลติน ขนมเค้ก Ellse
อิ่มแล้ว ก็เดินให้เหล่าบรรดาปู กุ้ง ปลา ได้ย่อยกัน สำรวจเมืองงามๆนาม รัตนะบุรี แบบเพลินๆ พร้อมมาใช้คูปอง แลกกาแฟสด ที่่ร้านกาแฟ ซึ่งอยู่ในโซนแรกของโฮมสเตย์ เป็นร้านที่ขายดีมากๆ เพราะคนผ่านไปมา สะดุดตากับเมืองสวยๆที่สะกดได้ทุกสายตา ให้อยากมาถ่ายรูป มาเซลฟี่ แม้ไม่ได้มาพัก ก็มากินกาแฟ กินเค้ก ก็มาถ่ายรูปได้
ร้านกาแฟรัตนะบุรี
ภายในร้านกาแฟ ตกแต่งหรูหราสวยงาม แอรฺ์เย็นฉ่ำ
เดินไปเดินมา ดื่มกาแฟเพลินๆ แป๊บเดียวก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์ อำลาเมืองงามกลางน้ำ นาม รัตนะบุรี นี้แล้ว
เวลาดีๆที่มีความสุขมักจะสั้นเสมอ แล้วฉันจะกลับมาหาเธอใหม่นะ “รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์”
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา
จากใจ ชายคาตะวัน
….
เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ จันทบุรีเป็นเมืองที่รวมสถานที่ท่องเที่ยวไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ทะเล น้ำตก ภูเขา ป่าชายเลน วัด โบสถ์ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน เหมืองพลอย สวนผลไม้ สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะช่วงไหนก้อได้ บรรยากาศแสนโรแมนติก แต่ละสถานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ สวยงามพิเศษ ถ่ายรูปออกมาได้สวยงามมากไม่ว่ากลางวันกลางคืน ไปแล้วจะไม่ผิดหวังเลยทีเดียว