.
ผมกับเพื่อนๆรวม10 บล็อกเกอร์ได้เข้าร่วมทริป ติดเกาะ “Castaway @ Low Carbon Island” @เกาะหมาก ตราด จัดโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.)และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( ISMED) เป็นการพา10บล็อกเกอร์ อาสารักษ์โลกร่วมผจญภัยติดเกาะที่เกาะหมาก จังหวัดตราด 4วัน 3 คืน เป็นการเที่ยวติดเกาะแบบ Low Carbon
ภาระกิจของบล็อกเกอร์ในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4ทีม คือ
1 ทีม Eat it fresh (ตอน กินเต็มเหนี่ยว เที่ยวทะเลตะวันออก) เป็นการตามหาเมนูอาหารอร่อยของท้องถิ่น โดย บล็อกเกอร์ครัวบ้านพิม และ Lovely Trip
2 ทีม Man VS Wild (ตอน ผจญภัยติดเกาะ) กิจกรรมผจญภัย ศึกษาธรรมชาติ ดูนก เดินป่า ศึกษาพรรณไม้ ดำน้ำตื้น พายเรือคายัค ทีมนี้มีบล็อกเกอร์ 2 คน คือ Go Travel Photo และ เพื่อนนักสะพายเป้
3 ทีม Cycling Island (ตอน ปั่นเสือลดเลี้ยว เที่ยวทั่วเกาะหมาก) เป็นการปั่นจักรยานเที่ยวเกาะหมาก ทั้งในเส้นทาง Off Road และเส้นทางทั่วไป เพื่อเรียนรู้ชุมชนบนเกาะหมาก ทีมนี้มี 2 บล็อกเกอร์รูปหล่อคือ ช่างภาพขาลุย และ ชายสามหยด
4 ทีมLight Chaser (ตอน นักตามล่าแสง แห่งทะเลตะวันออก) ตามหามุมแสงสวย ค้นหา Unseen ของเกาะหมาก และเกาะใกล้เคียง มีบล็อกเกอร์ 3 คน คือ ชายคาตะวัน Travelista และ น้ำฟ้าป่าเขา
งานนี้ผม ( ชายคาตะวัน )ได้อยู่กับทีม ตามล่าหาแสง Light Chaser
นอกจากนี้ เรายังมีอีก 1 ยูทูบเบอร์ คือ Art Thomya ได้มาร่วมผลิตคลิปคาร์บอนต่ำที่เกาะหมากในครั้งนี้ด้วย
ก่อนที่เราจะไปตามหาแสง เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า การท่องเที่ยวแบบ Low Carbon มันเป็นยังไง
การท่องเที่ยวแบบ คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism)
อพท. ได้ให้ความหมาย การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ ( Low Carbon Tourism ) ว่าหมายถึงการประกอบกิจการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดการการใช้ประโยชน์และการพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยว รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างชาญฉลาดและมีเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสุนทรียภาพแก่ สมาชิกของสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยสามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติและมีการดำเนินการที่จะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง หรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด
เกาะหมาก โลว์คาร์บอน
เกาะหมาก โลว์คาร์บอน คือ แบรนด์เกาะหมาก Low carbon destination ที่สำนักงานบริหารพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ตามหลักการการคงความสมดุลของสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม จนส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวที่สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เกาะหมาก จ.ตราด
หลังได้รู้จักการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon กันแล้ว มารู้จัก เกาะหมาก กันบ้าง ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักเกาะหมาก รวมถึงตัวผมเองด้วย ก่อนมาติดเกาะกับทริปนี้ ผมรู้จักแค่เกาะช้าง เกาะกูด แต่เกาะหมาก ยังไม่ค่อยรู้จัก แต่พอได้ยินชื่อมาบ้าง ผมก็เข้าใจไปว่า ก็คงเป็นเหมือนเกาะทั่วๆนั่นแหละ
แต่หลังจากได้มาสัมผัสเกาะหมาก แบบจริงจัง เพื่อมาตามล่าหาแสง ก็ได้พบว่า เกาะหมากมีอะไรที่เกาะอื่นๆไม่มี เกาะหมากเป็นเกาะที่สวย รอบๆเกาะมีแนวปะการังที่ยังสมบูรณ์และสวยงาม
เกาะหมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดตราด ชื่อ เกาะหมากได้มาจากคำพ้องเสียงของคำว่า “หมากป่า” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่ในอดีตมีอยู่เป็นจำนวนมากบนเกาะ
เกาะหมาก ตั้งอยู่ที่ไหน
เกาะหมากตั้งอยู่ระหว่าง เกาะช้าง กับ เกาะกูด จังหวัดตราด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร ระยะทางรอบเกาะ 27 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9 เกาะ คือ เกาะหมาก เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะนก เกาะนอก เกาะใน
มีพื้นที่ทั้งหมด 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก หรือ คล้ายรูปมังกร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว และสวนยางพารา มีอ่าว มีชายหาดที่สวย และน้ำใสหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวสวนใหญ่
เกาะหมาก ถูกเรียกว่า“เป็นเกาะที่ไม่ถูกตามใจ” หรือ (Unspoiled Island) เพราะ ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีสกู้ตเตอร์ ไม่มีช้อปปิ้งมอลล์ใหญ่โต แต่มีเพียงร้านค้าเล็กๆ ของชุมชน ที่นอกจะได้จากสินค้าที่ซื้อแล้ว ยังได้รอยยิ้มของคนขายแถมมาอีกด้วย สิ่งนี้เองที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่ม Niche มีความโหยหาต้องการความเงียบสงบของเกาะและเสน่ห์ของผู้คน
แนวคิดการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เป็นThe Must ของการสืบสานการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมีความตื่นตัวในกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของเกาะหมากสอดรับกับแนวทางที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
แต่การท่องเที่ยวแบบ Low Carbon จะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งตัวนักท่องเที่ยวเอง และจากผู้ประกอบการ
การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำบนเกาะหมาก จะเป็นการเน้นกิจกรรมที่ใช้พลังงานต่ำ เช่น เดินป่า ปีนเขา ดำน้ำ ขี่จักรยานเที่ยว การแล่นเรือใบ การพายคายัก การทานอาหารเมนูของท้องถิ่นที่ใช้วัถุดิบจากเกาะ การใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ การรณรงค์ให้ลูกค้าปิดแอร์ ปิดไฟ แล้วออกไปเที่ยวนอกรีสอร์ท โดยผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษในช่วงเวลานั้นๆ
ได้ทราบหลักการของการเที่ยวแบบ Low Carbon กันแล้วนะครับ ตอนต่อไปผมจะพาไปดูว่า ผมไปถ่ายรูปที่ไหนบ้างบนเกาะหมาก ภาพจะสวยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า แสงเป็นยังไง รวมถึงสถานที่นั้นๆว่ามีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า ติดตามภาระกิจการล่าแสงสวยๆ คาร์บอนต่ำๆ ของผมได้ ในตอนต่อไปนะครับ
เที่ยวคาร์บอนต่ำ ธรรมชาติยั่งยืน เมืองไทยยั่งยืน
ชายคาตะวัน :โดดเดี่ยวเที่ยวทั่วไทย