ขุนเขา ป่าไม้ สายน้ำ เป็นธรรมชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่า มีประโยชน์ต่อชีวิตผู้คนมากมาย ทริปนี้ลุงชายจะพาไปเที่ยวกาญจนบุรี เมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งภูเขา แม่น้ำ และผืนป่า
ทั้งนี้เป็นการไปเที่ยวภายใต้แหล่งท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ภายใต้สัญลักษณ์ ช้างชูงวงเริงร่า ของกรมการท่องเที่ยว
13 พิกัดกินเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี 3วัน 2คืนทริปนี้ เราไปไหนบ้าง
1.ล่องแพบ้านเหนือ (ธาราบุรี) อ. เมือง
2.ทานอาหารบนแพบ้านเหนือ
3.อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ อ.ไทรโยค
4.โรงแรมผึ้งหวาน รีสอร์ท อ. ไทรโยค
5.อาหารค่ำที่ผึ้งหวานรีสอร์ท
6.เส้นทางชมธรรมชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์
7.สวนเวลารำลึก เขื่อนศรีนครินทร์
8.สันเขื่อน
9.ร้านอาหาร เรือนธารา เขื่อนศรีนครินทร์
10.ถ้ำพระธาตุ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
11.ร้านอาหารเรณู ใกล้น้ำตกไทรโยคน้อย
12.ปางช้างทวีชัย อ. เมือง
13.ร้านอาหารคีรีมันตรา อ. เมือง
วันที่ 1
เราเดินทางไปกาญจนบุรี ด้วยรถตู้ของบริษัท เฟริสท์ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นรถตู้ที่ได้รับการรับรอง “มาตรฐานบริการรถตู้ปรับอากาศสำหรับนักท่องเที่ยว” ด้วยสภาพรถดีทั้งภายในและภายนอก แอร์เย็นฉ่ำ เบาะนั่งสบาย พนักงานขับแต่งเครื่องแบบเรียบร้อยมากๆ แถมยังขับรถโดยใช้ความเร็วไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ปลอดภัยแน่นอน
แพบ้านเหนือ ( ธาราบุรี)
จุดหมายแรกคือล่องแพชมวิว2 ฝั่งแม่น้ำแควน้อยที่ แพบ้านเหนือ ( ธาราบุรี) พร้อมทานอาหารกลางวันกันบนแพ โดยแพบ้านเหนือ ได้รับมาตรฐานแพบริการเพื่อการท่องเที่ยว บริการดี มีความใส่ใจในเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
เมนูอาหารกลางวัน ยำรวมมิตร ปลาทอดกระเทียม ปีกไก่ทอดดสมุนไพร แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ขาหมูพะโล้ปรุงพิเศษ หลนปลาอินทรีย์ – ผักสด ต้มยำกุ้ง ผลไม้รวม
อาหารกลางวันมื้อนี้ บอกเลยว่าอร่อยจริง แถมได้เสพวิววิถี2ฝั่งแม่น้ำแควน้อย ล่องผ่านบ้านเรือน วัดวาอาราม จนไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว อันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี แล้วจึงวกกลับ ขึ้นฝั่งนั่งรถตู้เดินทางต่อไปยังปราสาทเมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ อ.ไทรโยค
ก่อนเดินชมโบราณสถาน เราเข้าฟังการบรรยายสั้นๆจากวิทยาการก่อน ที่นี่ได้รับการรับรอง “มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์” มีการบริหารจัดการที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม เข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ทางเข้าอาคารมีป้ายสัญญลักษณ์ช้างชูงวงเริงร่า
“ปราสาทเมืองสิงห์” สถาปัตยกรรมอันงดงามในยุคเฟื่องฟูของเขมร เป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นระหว่างปีพุทธศตวรรษที่ 18-19 ด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะขอมสมัยบายน กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลง แนวด้านทิศเหนือ – ทิศใต้ ยาวจรดแม่น้ำ มีประตุทางออก 4ด้าน โดยในสมัยรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทำการยกเมืองสิงห์ให้มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี
ไฮไลท์คือโบราณสถานหมายเลข 1 ซึ่งยังคงสภาพดี มีความงดงาม และโบราณสถานหมายเลข2 ซึ่งอยู่ใกล้กัน ลุงเดินชม ถ่ายรูปเพลินๆ ในใจก็จินตนาการย้อนเวลาไปในอดีต ร่องรอยอารยธรรมที่หลงเหลือให้เราได้ชม ก็เป็นบทเรียนให้เราได้คิด ได้ทบทวน ถ้าเราอยากมีอนาคตที่ดี ก็เพียงแค่ทำปัจจุบันให้ดีเท่านั้นก็พอ
โรงแรมผึ้งหวาน รีสอร์ท อ.ไทรโยค
จากปราสาทเมืองสิงห์ เราเข้าพักกันที่ ผึ้งหวานรีสอร์ท อ. ไทรโยค รีสอร์ท ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย พื้นที่กว้างใหญ่ 300 ไร่ ที่จอดรถสะดวกสบาย ได้อยู่แนบชิดติดธรรมชาติทั้งแม่น้ำ ป่า และภูเขา ซึ่งที่ผึ้งหวานรีสอร์ท ก็ได้การรับรอง “มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทรีสอร์ท”
ภายในรีสอร์ทมีบ้านพักหลายแบบ มีห้องอาหาร คอฟฟี่ช็อป สระว่ายน้ำ ห้องที่ลุงพัก ก็สะดวกสบาย ภายในห้องพักถูกรีโนเวทแล้ว สวย สะอาดตา ห้องน้ำกว้าง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ด้านหน้าห้องพักเป็นสระบัว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
อาหารค่ำที่โรงแรมผึ้งหวาน รีสอร์ท
พวกเราทานอาหารค่ำที่ผึงหวานรีสอร์ท เมนูก็มี น้ำพริกลงเรือ ลาบหมู ต้มจืดสาหร่ายหมูสับ ปลาเปรี้ยวหวาน แกงส้มชะอมปลาทอด ไก่ผัดพริกไทยดำ ผลไม้รวม
วันที่2
ยามเช้าลุงชายเดินชมบรรยากาศรีสอร์ทริมน้ำเดินเล่นแบบผ่อนคลาย ฟังเสียงน้ำไหล เสียงนก จากนั้นก็ทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์
จากนั้นเราไปกันที่ เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจ มีการบริหารจัดการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยได้รับการรับรอง “มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ” และ “มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ”
เขื่อนศรีนครินทร์ เดิมชื่อเขื่อนเจ้าเณร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำแม่กลอง สร้างขึ้นบนแม่น้ำแควใหญ่ ที่บ้านจ้าเณร ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ เป็นเขื่อนที่8 ที่ กฟผ. สร้างขึ้น มีความแข็งแรงปลอดภัย เป็นเขื่อนที่มีประโยชน์ด้านต่างๆ ช่วยพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎร รวมถึงส่งเสริมให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เขื่อนศรีนครินทร์
มี 2 เส้นทาง เส้นแรกระยะทาง 1.9กม. เส้นที่ 2 ระยะทาง 330เมตร เราเดินเส้นทางที่2 ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำการเขื่อน ทางเดินเป็นสะพานไม้ เดินชมศึกษาระบบนิเวศวิทยาพืชผิวดิน จนถึงพืชเรือนยอด เดินชมธรรมชาติๆไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีชื่อพรรณไม้ติดอยู่ เช่น ผักหวานป่า ผักหวานเมา หัวใจทศกัณ เป็นต้น เดินเพลินๆจนถึงสุดสะพาน จะมาเจอกับสวนเวลารำลึก
สวนเวลารำลึก
สวนนี้สร้างขึ้นในศุภมงคลสมัยที่สมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนม์มายุ 90 พรรษา มีเนื้อที่ 30 ไร่ เป็นเนินเขาติดอ่างเก็บน้ำในเขื่อน ตกแต่งสวนสวยงาม มีไม้ยื่นต้นและไม้ดอกนานาชนิด
ไฮไลท์ของสวนเวลารำลึกคือนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ ซึ่งดูเวลาได้จากเงาของเข็มที่ตกลงมาบนตัวเลข ด้านหน้านาฬิกาแดดมีน้ำพุสวยงาม
สันเขื่อน
จากนั้นนั่งรถต่อไปยังสันเขื่อน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 14 กุมภา ตรงกับวันวาเวนไทน์ ทางเขื่อนได้จัดกิจกรรมแห่งความรัก จดทะเบียนสมรสให้กับคู่บ่าวสาว ลุงเดินชมบรรยากาศโดยรอบ ชมวิวสันเขื่อน ไหว้พระพุทธสิริสัตตราช หรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์
ถ่ายรูปบนสันเขื่อนกันอย่างเพลิดเพลิน
ร้านอาหารเรือนธารา เขื่อนศรีนครินทร์
หลังนั้นก็ได้เวลาอาหารกลางวัน เราทานกันที่ ร้านอาหารเรือนธารา ซึ่งอยู่ในเขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศดี มองเห็นสวนคุณสายชล และอ่างเก็บน้ำ
เมนูอาหาร มี 7 อย่าง คือไข่เจียวกรอบ วอเตอร์เครสผัดไข่ ไก่รวนเค็ม ยำถั่วพูกุ้งสด ปลาคังลวกจิ้ม แกงป่าปลาคัง ผลไม้รวม
ถ้ำพระธาตุ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ถ้ำพระธาตุถ้ำพระธาตุได้รับการรับรอง “มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประเภทถ้ำ”
ถ้ำพระธาตุ เดิมชื่อถ้ำดุสิตมหึมา การเข้าชม เราต้องเดินขึ้นเขาซึ่งเป็นบันไดปูน เดินง่ายไม่ลื่น แต่จะชันพอสมควร ระยะทางเดินขึ้นประมาณ 600 เมตร มีจุดให้นั่งพักเป็นระยะระยะ แนะนำควรพกน้ำดื่มไปด้วย อ้อ ไฟฉายส่องสว่างด้วยครับ เพราะในถ้ำมืดมาก ลุงชายไม่ได้พกไฟฉายไปทำให้ถ่ายภาพยากมาก
ภายในถ้ำกว้างใหญ่และลึก มืดมากกก ระยะทางเดินประมาณ 200 เมตร ภายในถ้ำแบ่งเป็น 7 ห้อง คือ กบจำศีล ท้องฟ้าจำลอง หินระฆัง หินพระธาตุ เสาเอก หินปะการัง และม่านลิเก ซึ่งในการเดินชมถ้ำครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่อุทยานพานำชมจุดต่างๆ และสาดไฟส่องให้เห็นความงดงามของหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ ชาวบ้านมีความเชื่อว่ามีพระธาตุ ลักษณะเป็นหินสีขาวคล้าย หอยสังข์อยู่ในถ้ำ
เราเดินเป็นวงกลม และย้อนออกมาทางเดิม ตอนลุงเดินลง ขาเกร็งไปหมด แก่เลี้ยวจริงๆ อิอิ
ร้านอาหารเรณู
ออกจากถ้ำกลับไปที่รีสอร์ท แล้วตอนเย็นก็ไปทานอาหารที่ร้านเรณู ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆกับน้ำตกไทรโยคน้อย บรรยากาศร้านดีมากๆครับ ชั้น 2 มองเห็นวิวภูเขาสวยงาม
เมนูค่ำนี้คือ ต้มยำปลาคังน้ำใส ปลาค้าวทอดน้ำปลา ซี่โครงหมูสับปะรด หมูป่าผัดเผ็ด ไก่ผัดเผ็ดมะม่วง ผัดผักหวานป่า
วันที่ 3
แคมป์ช้างทวีชัย อ.เมือง
เราทานอาหารเช้ากันที่ผึ้งหวานรีสอร์ท จากนั้นก็ออกเดินทางไป แคมป์ช้างทวีชัย ที่ได้รับการรับรอง “มาตรฐานการจัดปางช้างเพื่อการท่องเที่ยว”
ช้าง เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทย ที่นี่เป็นปางช้างที่มีการจัดการที่ดี บุคลากรพร้อม สภาพแวดล้อมดี มีความปลอดภัย วิวสวยริมแม่น้ำแคว มีจุดกางเต็นท์ริมน้ำด้วย เราได้เห็นความน่ารักและแสนรู้ของช้าง ได้ป้อนอาหารช้างอย่างสนุกสนาน ได้ถ่ายรูปกับช้าง แล้วก็อาบน้ำให้ช้าง
ร้านคีรีมันตรา อ.เมือง
ก่อนเดินทางกลับ เราแวะทานอาหารกลางวันที่ร้าน คีรีมันตรา ร้านตกแต่งสวยงาม บรรยากาศร่มรื่น
ทานอิ่มแล้วก็เดินถ่ายรูปในบรรยากาศสวยๆ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับโนสวัสดิภาพ
อย่าลืมนะครับ ออกไปเที่ยวครั้งต่อไป ลองมองหาสัญลักษณ์ช้างชูงวงเริงร่า เพราะนั่นคือแหล่งท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน บริการดี สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และมีความเป็นเอกลักษณ์
เที่ยวไปยิ้มไป เมืองไทยของเรา
จากใจ ชายคาตะวัน