chaicatawan

เที่ยวอินเดีย – เนปาล ดินแดนแห่งพุทธภูมิ

 

รีวิวเที่ยวอินเดีย ตอนแรก ผมพาไปแสวงบุญที่นครสาวัตถี โดยมีจุดเริ่มต้นจากเมืองลัคเนาว์ เมืองหลวงของอุตตระประเทศ ซึ่งเป็นทริป ตามรอยพระบาททีย่าตรา แห่งองค์พระพุทธศาสดา น้อมสักการะ 2 สังเวชนียสถานวันแรก  โดยสายการบิน ไทยสมายล์ (Thai Smile Airways )
อ่านรีวิวตอนแรก https://goo.gl/R8G4JH

Thai Smile Airways เปิดบินตรงกรุงเทพฯ -ลักเนาว์ อินเดีย เมื่อเดือนธันวาคม 59 โดยบิน 4เที่ยวต่อสัปดาห์ อา จ พ ศ ขาไป WE 333 BKK-LKO 04.40-07.00 น. ขากลับ WE334 LKO-BKK 08.00-13.30 และในเดือนมิย.60 จะเปลี่ยนวันเป็น อา อ พฤ ศ ฉะนั้นก่อนวางแผนเที่ยว เพื่อความชัวร์ ควรสอบถามรายละเอียดที่ 1181 หรือคลิก Thai Smile Airways

 

สาวัตถี –ลุมพินี เมืองไภรวา ประเทศเนปาล  

มาถึงวันที่ 2 ของการเดินทางแสวงบุญ หลังทานอาหารเช้าที่โรงแรมในแบบที่เราคุ้นเคย อาหารออกแนวไทยๆครับ ที่โรงแรม Srawasti residency เมืองสาวัตถีกันแล้ว ก็ได้เวลาแสวงบุญต่อ วันนี้เราต้องนั่งรถเข้าประเทศเนปาล โดยมีกำหนดการนอนที่เนปาล 1 คืน ทั้งนี้ก็เพื่อไปสักการะสังเวชนียสถานแห่งเดียวที่ไม่อยู่ในประเทศอินเดีย ที่ลุมพินี เมืองไภรวา เนปาล

 

วันนี้คณะเรายังได้พระอาจารย์คมสรณ์ ร่วมเดินทางด้วย พร้อมบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ รวมถึงเรื่องต่างๆที่เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเทศอินเดีย

เส้นทางที่เราเดินทางประมาณ170 กิโลเมตร พระอาจารย์บอกว่า ถนนสายนี้บางส่วนก็ทำดีขึ้นมากแล้ว แต่บางส่วนก็ยังไม่ค่อยดี ขรุขระมากๆ เราได้นั่งไปหัวสั่นไปแน่  ซึ่งก็เป็นจริงดังพระอาจารย์กล่าวไว้ครับ 2ข้างทางผมและเพื่อนร่วมทริปยังคงเพลิดเพลินกับวิถีอินเดีย และวิธีเนปาล

รินสา ประกบชายหนุ่มอินเดีย เสียดายไม่มีสาวอินเดียอยู่ตรงนั้น ผมจะได้ขอถ่ายรูปคู่บ้าง แฮ่ๆ

 

วันนี้ถ่ายยากกว่าเดิมอีก เพราะรถสั่นมากๆ ทั้งกล้องทั้งคนหัวสั่นหัวคลอนกันไป โยกเยกโยกเยกกันเลย


ทุ่งข้าวสาลี สีเหลืองงดงาม เห็นแล้วเพลินตาดีครับ

 

ระหว่างทาง ผมสังเกตเห็นบ้านเรือนริมถนน หน้าตาคล้ายๆกัน จะเห็นผนังด้านข้างตึก ถูกว่างไว้ ไม่มีการฉาบปูน หรือทาสีแต่อย่างใด ผมก็เลยสงสัย ท่านพระอาจารย์คมสรณ์บอกว่า เค้าว่างไว้สำหรับสินค้าที่สนใจจะมาลงโฆษณา ใครสนใจก็มาฉาบปูน ทาสี เขียนป้ายโฆษณาได้เลย เจ้าของบ้านก็ได้ผนังบ้านที่สวยงามขึ้น เจ้าของสินค้าก็ได้โปรโมทสินค้าตัวเองฟรี วินวินกันทั้งสองฝ่าย เจ้าของสินค้าก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วย เพราะไม่ใช่ป้ายโฆษณา แต่เป็นผนังบ้านคน


โรงงานทำอิฐ จะเห็นค่อนข้างเยอะระหว่างสองข้างทาง

ระหว่างทาง พระอาจารย์คมสรณ์ได้พาแวะจุดพักรถ ซึ่งเป็นที่ที่พระอาจารย์และทางวัดไทยได้มาสร้างไว้   มีศาลาที่พักขนาดใหญ่ มีห้องน้ำอย่างดี ไว้ต้อนรับผู้แสวงบุญ มีน้ำดื่ม กาแฟ รวมถึงมีครัวสำหรับทำอาหารกินด้วยครับ

ผมได้ลองใช้ห้องน้ำแบบหนักด้วยครับ นั่งสบายเชียว อิอิ

ส่วนสาวสวยคนนี้ คือบล็อกเกอร์ รินสา จากเพจ รีวิววนไป กำลังบรรจุของเหลวลงกระเพาะ สงสัยจะกระหายหนักมาก

เราพักเพียงซักครู่ ล้อก็หมุนต่อ ผมและเพื่อนไม่หลับครับ เก็บภาพกันต่อไป

ในอินเดีย เราจะเห็นรถยี่ห้อ TATA เยอะมาก ยอดนิยมกันเลย แต่พอมาขายในเมืองไทยแล้ว ไม่ค่อยดี ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

การจราจร ขนส่ง ทุกอนู เกินคุ้มครับ

บางช่วงเราเดินทางผ่านชุมชน มีวิถีให้เราได้พบได้เห็นมากมาย

พุทธวิหารสาลวโนทยาน 960

ก่อนเข้าด่านชายแดน อินเดีย-เนปาล เราก็แวะพักอีกครั้งที่ พุทธวิหารสาลวโนทยาน 960  หรือเรียกสั้นๆว่า วัด960  ซึ่ง960 มีที่มาคือเลข9 หมายถึงในหลวงร.9 ของเรา ส่วน 60 คือสร้างตอนในหลวงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปี2549

เราจอดกันตรงนี้ เพื่อเข้าพักใน960 ซึ่งตรงนี้ใกล้ด่านมากแล้ว จะเห็นรถจอดรอเพื่อเข้าด่านตรวจมากมาย แถวยาวเหยียด พระอาจารย์บอกว่าบางครั้งรถเหล่านี้ต้องจอดรอหลายวันหลายคืน บางทีอาจเป็นสัปดาห์ก็มี

960 คือจุดพักของผู้แสวงบุญทั้งชาวไทยและนานาชาติ มีศาลาสวดมนต์ ห้องฉันภัตตาหาร ห้องรับประทานอาหาร คลีนิคปฐมพยาบาล ชา กาแฟ รวมถึงมีโรตรอรีดอย (อร่อยดี) ให้ทาน มีร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำ สวนหย่อม และศาลาพักผ่อน

เวลาไปต่างบ้านต่างเมือง ถ้าเราได้เจออะไรที่เป็นไทยๆ เราจะรู้สึกดีๆ
ยิ่งได้เจอรูปในหลวงก็ยิ่งสุขใจและอบอุ่นขึ้นมาทันที

พุทธวิหารสาลวโนทยาน 960 ปัจจุบันมีสถานะเป็น วัดไทยนวราชรัตนาราม 960  อยู่ในความดูแลของวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์-อินเดีย  ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นที่ปลดทุกข์ต่างๆ ทั้งทุกข์จากเรื่องห้องน้ำ ทุกข์เรื่องความหิว รวมถึงพักผ่อนยืดเส้นสายเพื่อรอดำเนินการเรื่องเอกสารผ่านแดนอินเดีย เนปาล

หลังกินโรตี อรีดอย ที่ 960 แล้ว ก็เดินทางต่อครับ

นำเสนอโรตีโดยนายแบบหนุ่มใหญ่รูปหล่อนามไพเราะ “ชายสามหยด”


ใช้เวลาไม่นาแล้วก็มาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองโสนารี     รถจอดรออยู่ราวๆ30 นาที เพื่อดำเนินการเรื่องข้ามแดน ระหว่างรอบนรถ ก็สังเกตุวิถีเนปาล วิถีอินเดียอีกครับ

 

เห็นเค้าขายแตงกวาค่อนข้างมาก แตงกวาที่นี่เค้ากินกันเป็นของว่างครับ คล้ายๆกับกินมะม่วงเลย ไม่ได้กินเป็นผักเหมือนบ้านเรา


ผ่านด่านมาแล้ว รถวิ่งต่ออีกราวๆ 20 กม ถึงโรงแรม ลุมพินี โฮเต็ล คาไซ ซึ่งเป็นโรงแรมของญี่ปุ่น เช็คอินเรียบร้อย ก็ได้เวลาอาหารมื้อกลางวัน ซึ่งเลยเที่ยงมานานแล้ว


อยากบอกว่า อาหารอร่อยถูกปากครับ โรงแรมเค้าได้ปรับรสชาติและเมนูอาหารสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ

 

ลุมพินีวัน
อิ่มอาหารกลางวันกันแล้ว ก็เปลี่ยนรถเป็นคันเล็กๆ 2 คัน เพื่อไปยังลุมพินีวัน


ถึงแล้วครับ ลุมพินีสถาน ตรงนี้คือกระถาง ไฟแห่งสันติภาพ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ว่าเราได้มาถึงลุมพินีวันแล้ว  ซึ่งไฟนี้ไม่มีวันดับ เป็นดวงไฟที่หลอมรวมคนทั้งโลกไว้ด้วยกัน

 

ก่อนจะถึงวิหาร เราจะพบกับพระโพธิสัตว์สิทธัตถะราชกุมาร (พระพุทธเจ้าน้อย )

 

ซึ่งสร้างจากศรัทธาอันสูงสุดต่อพระพุทธเจ้า ของชาวไทย ในปี2012

แล้วก็เดินต่อครับ ก่อนเข้าไปยังบริเวณวิหาร เราต้องถอดรองเท้าฝากไว้ด้านนอก เดินเท้าเปล่ากันด้านในนั่นเลยครับ

วิหารมายาเทวี
สถานที่แห่งนี้เป็นสังเวชนียสถานแห่งเดียวที่ไม่อยู่ในประเทศอินเดีย ทั้งนี้ก็เพราะว่าก่อนที่สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จมาประสูติ  พระองค์ท่านเป็นพระบรมโพธิสัตว์เจ้า ยังมิได้รับอาราธนาของทวยเทพทั้งหลายทรงพิจารณาดู “ปัญจมหาวิโลกนะ” คือ การตรวจดู อันยิ่งใหญ่ 5 อย่าง ก่อนที่จะตัดสินพระทัยประทานปฏิญาณรับอาราธนาของ เทพยดาทั้งหลาย ว่าจะจุติจากดุสิตเทวโลกไปบังเกิดในพระชาติสุดท้ายที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มี 5 อย่างที่พระบรมโพธิสัตว์เจ้าทรงเลือก ดังนี้

  1. กาล ทรงเลือกอายุกาลของมนุษย์
  2. ทวีป ทรงเลือกชมพูทวีป
  3. ประเทศ ทรงเลือกมัธยมประเทศ
  4. ตระกูล ทรงเลือกตระกูลกษัตริย์ศากยวงศ์
  5. มารดา ทรงเลือกมารดาที่มีศีลห้าบริสุทธิ์ ได้บําเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัป และกําหนดอายุของมารดา ทรงกําหนดได้พระนางมหามายา



เราได้เข้าชมภายในลุมพินีวัน และชม วิหารมายาเทวี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ซึ่งภายในวิหารจะมีรูปปั้นของพระนางมายาเทวี (พระมารดาของพระพุทธเจ้า)  ขณะพระองค์กําลังให้กําเนิดเจ้าชายสิทธัตถะ และ มีแผ่นหินซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นรูปรอยเท้า้ของเจ้าชายสิทธัตถะ
วิหารที่เราเห็นในปัจจุบัน เป็นวิหารที่ทางการเนปาลสร้างขึ้นครอบวิหารเดิม ซึ่งณที่แห่งนี้ได้ขุดพบวัตถุโบราณ เป็นแผ่นศิลาขานด 5 คูณ 5 นิ้ว โดยนักสำรวจเชื่อว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าพระพุทธเจ้า หรือเจ้าชายสิตธัตถะ ทรงประสูติที่นี่


เราด้านในวิหารซักชั่วยามนึงครับ ได้สงบจิตสงบใจ ทำใจให้ปลอดโปร่ง ก็รู้สึกดีครับ เสียดายไม่ได้ภาพมาฝาก

หมายเหตุ ภายในวิหารห้ามถ่ายภาพใดๆทั้งสิ้นครับ

 

ภายนอกวิหาร มีสระโบกขรณี ตอนนี้มีผู้แสวงบุญมาสักการะพอสมควร รวมถึงมีพระทั้งจากเนปาลเอง และจากต่างประเทศ


ส่วนนี่เสาอโศก ซึ่งถูกฝังดินไว้และพบจารึก เป็นอักษรพราหมณ์ ที่ระบุว่าที่แห่งนี้คือสถานที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ

ที่เสาอโศก พระอาจารย์คมสรณ์ ได้นำพาทุกคนทำพิธีและสวดมนต์ เป็นการสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


บรรยากาศภายในลุมพินีวัน

ถ่ายรูปกับพระอาจารย์คมสรณ์ ไว้เป็นที่ระลึก
ออกจากวิหารเดินกลับมายังจุุดจอดรถ

วัดไทยลุมพินี

หลังจากนั้นก็ไปเยี่ยมชมวัดไทยลุมพินี ซึ่งตั้งอยู่ในปริมณฑลสังเวชนียสถาน สวนลุมพินีวัน ห่างจากบริเวณวิหารไม่ไกลนัก

วัดไทยลุมพินี สร้างจากงบประมาณแผ่นดินของไทยและผู้ศรัทธาชาวไทย ที่ร่วมทำบุญ และทำสัญญา เช่าที่ดินจากรัฐบาลเนปาลจำนาวน3 แปลง พื้นที่ 20 ไร่เศษ  เป็นเวลา 99 ปี เริ่มก่อสร้างในปี 2538

พระอุโบสถสวยงาม ออกแบบโดย รศ.ดร. ภิญโญ สุวรรณคีรี

พระประธานในอุโบสถคือ พระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค ภ.ป.ร.

ส่วนนี่เป็นศาลาการเปรียญครับ

วันที่ 20 ตค. 2560 เชิญร่วมพิธีผูกพัทธสีมา ปิดทอง ฝังลูกนิมิตร เปิดวัดไทยลุมพินีอย่างเป็นทางการ

เพื่อเป็นการให้ความสะดวกแก่ผู้มาแสวงบุญ ทางวัดไทยลุมพินี จึงมีอาคารที่พักให้กับผู้แสวงบุญด้วย มีห้องน้ำและห้องอาหารพร้อมสรรพ

หลังจากนั่งพักผ่อนในวัดซักพักใหญ่ ก็ได้เวลากลับโรงแรม ถึงโรงแรมได้เวลาอาหารค่ำพอดี อาหารก็พร้อมแล้ว พร้อมด้วยแสงทไวไลท์กำลังเปล่งรัศมีเช่นกัน ผมไม่รอช้าครับ ถ่ายรูปก่อน ไม่งั้นแสงอาจหมดก่อนได้ อาหารหมดไม่เป็นไร แสงทไวไลท์ห้ามหมด อิอิ


ถ่ายรูปเสร็จ ทานอาหารค่ำ และพักผ่อน พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับเข้าอินเดียครับ จุดหมายอยู่ที่เมือง กุสินารา ซึ่งเป็นที่พระพทุธเจ้าปรินิพาน  แล้วพบกันกับรีวิวตอนต่อไปครับ

ฟ้ากว้าง ทางไกล หัวใจ ไปถึง

จากใจ.. ชายคาตะวัน

 

Comments

comments

3 Comments

  1. มนัส

    จะสอบถามว่า วัดที่พักระหว่างทางจากเมืองสาวัตถี ก่อน ถึงวัดไทย 960 ชื่อว่าอะไรครับ คงจะได้ไปพักเข้าห้องนำ้แน่ๆครับ ขอบคุณมากๆครับ

    Reply
    1. admin (Post author)

      ยังไม่มีชื่อครับ พระอาจารย์พาไป ท่านสร้างไว้เป็นที่พักระหว่างเดินทางครับ

      Reply
  2. Sainam

    จากฝั่งอินเดีย ข้ามมาลุมพินี ต้องทำวีซ่ามาก่อนหรือเปล่าคะ หรือสามารถทำได้ที่ด่านเลย

    Reply

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *